top of page
Writer's picturePrakai Team

MEA Book Summary Expert สรุปให้ สรุปเป็น Up Skill ให้ชีวิตดี๊ดี ตามวิถีเจิดจ้า



แม้ว่าสถานการณ์จะยังไม่ปกติ แต่ฝ่ายฝึกอบรมของ MEA ก็ไม่ปล่อยให้สมาชิกในบ้านต้องเงียบเหงาอ้างว้าง จับมือกับเพจดัง “สรุปให้” จัดคอร์สอบรมพิเศษ “MEA Book Summary Expert” ที่จำกัดจำนวนเพียง 60 ที่นั่ง และเต็มอย่างรวดเร็วใน 2 ชั่วโมงหลังจากเปิดรับสมัคร ถ้าอยากรู้ว่าคอร์สนี้ดีอย่างไร น่าสนใจแค่ไหน ทำไมใคร ๆ ก็แย่งกันลงทะเบียน ตามไปพิสูจน์ได้ในคอลัมน์นี้กันเลย


โครงการเล็ก แต่ความน่าสนใจไม่เล็กเลย

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลายคนอาจจะเคยเห็นโปสเตอร์โปรโมตโครงการ MEA Book Summary Expert ตามที่ต่าง ๆ บ้าง อาจจะเคยผ่านตาในสื่อภายในต่าง ๆ ของ MEA และบางท่านอาจจะเคยคลิกเข้าไปลงทะเบียนแต่ไม่ทันเวลา เพราะจำนวนผู้สมัครเต็มไปแล้วก่อนหน้า แต่ถ้าให้ย้อนไปยังจุดเริ่มต้น MEA Book Summary Expert หรือ โครงการสรุปหนังสือเล็ก ๆ ของคน MEA เกิดจากความร่วมมือของฝ่ายฝึกอบรมและเพจสรุปให้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการสรุปเนื้อหาและการทำสไลด์นำเสนอให้เข้าใจง่าย ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง และทำให้เกิดการส่งต่อแบ่งปันองค์ความรู้ภายในองค์กร ผ่านการเรียนรู้ตามโมเดล 10-20-70 คืออบรม 10% เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านพี่เลี้ยงหรือโค้ช 20% และลงมือทำจริง 70% ซึ่งแม้จะเป็นครั้งแรกของของ MEA กับโครงการนี้ แต่นับว่าได้ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะเพื่อน ๆ พนักงานให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทันทีที่เปิดให้ลงทะเบียน จำนวนผู้สมัครก็เต็มอัตราอย่างรวดเร็ว เรียกว่าฮอตฮิตไม่ต่างจากการกดตั๋วคอนเสิร์ตศิลปินดังเลยทีเดียว


ทำลายสถิติ! ปั้นนักสรุปฝีมือดี ส่งต่อความรู้อย่างมีคุณภาพ

งานนี้มี เซนเซแป๊ะ-นายวิฑูรย์ สูงกิจบูลย์ นักเขียน วิทยากร และเจ้าของเพจสรุปให้ เป็นแกนนำในการถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาสรุปเนื้อหา โดยมีเป้าหมายว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องสรุปเนื้อหาหนังสือให้ได้คนละ 4 เล่มเป็นอย่างน้อย เน้นเป็นหนังสือ How To ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวผู้สรุปเองและผู้ที่จะรับสารต่อ “ทำไมเราควรมีทักษะการสรุป ไม่ใช่แค่การสรุปหนังสือ แต่อาจจะเป็นการสรุปประเด็น สรุปข่าว สรุปข้อมูล


ทั้งนี้เพราะสมัยก่อนในแต่ละวันเรารับข้อมูลไม่เยอะ อย่างมากก็สองช่องทาง คือหนังสือพิมพ์ในตอนเช้าและข่าวโทรทัศน์ในตอนเย็น แต่เดี๋ยวนี้ข่าวสารเข้ามาหาเราทุกเวลาจากหลายช่องทาง สามารถรับข้อมูลได้ตลอดแบบไม่จำกัด จนบางครั้งข้อมูลที่เข้ามาเยอะเกินกว่าจะอ่านได้หมดใน 1 วัน ฉะนั้นการสรุปจึงมีประโยชน์มาก ซึ่งการเรียนรู้ผ่านการสรุปหนังสือจะช่วยให้สามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้ หลักสูตรนี้เน้นการลงมือทำเพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณอ่านหนังสือ 1 เล่มแล้วเห็นว่ามีบางอย่างที่เป็นประโยชน์ นำไปลงมือทำได้จริง เรียนรู้จากผลลัพธ์ และพัฒนาให้ดีขึ้น จะเป็นสิ่งดีที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ นอกจากนี้การสรุปเพื่อส่งต่อความรู้จะช่วยให้จำได้ดีขึ้นกว่าการอ่านเพื่อรู้อย่างเดียว และที่สำคัญคือ คอร์สนี้เปิดโอกาสให้คุณได้เป็นผู้ให้ ผู้ส่งต่อความรู้ไปยังคนที่อาจจะไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้น ๆ ซึ่งจะได้ความรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นผลตอบแทนกลับมา” เซนเซแป๊ะกล่าว


หลังจากปิดโครงการ เหล่านักสรุปให้รุ่นแรกของ MEA สร้างผลงานการสรุปหนังสือและส่งต่อความรู้ให้คนอื่นผ่านช่องทาง LINE OA MEA x สรุปให้ และ Facebook Page สรุปให้ มากถึง 145 เล่ม จนกุนซืออย่างเซนเซแป๊ะถึงกับออกปากว่า มากเป็นประวัติการณ์ ทำลายสถิติของรุ่นอื่น ๆ ที่ทางทีมสรุปให้เคยจัดอบรมและเวิร์กช็อปมาทั้งหมดอย่างถล่มทลาย และเชื่อว่าทุกคนจะยังต่อยอดนำความรู้ที่ได้ไปใช้อยู่เสมอ



เซนเซแป๊ะ-นายวิฑูรย์ สูงกิจบูลย์

นักเขียน วิทยากร และเจ้าของเพจสรุปให้

บอกต่อความ

ในบรรดาสมาชิกผู้เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน มีคนที่สามารถฝ่าความท้าทายสรุปหนังสือได้ตามเป้าหมาย 4 เล่มขึ้นไปกว่า 20 คน และหลายคนยังคงสรุปเนื้อหาดี ๆ มาส่งต่อให้กับเพื่อน ๆ อย่างต่อเนื่อง นี่คือส่วนหนึ่งของสมาชิกโครงการที่ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า สรุปได้ สนุกดี มีประโยชน์



บอส-นายพุฒิพงศ์ จิตต์มณีรัตน์

วิศวกรไฟฟ้า 5 ฝ่ายก่อสร้าง

“ผมนั่งทำงานแล้วเข้าเว็บไซต์ของ MEA เลยได้เห็นโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์โครงการ ตอนนั้นรู้สึกว่าโปสเตอร์ดูดีดึงดูดมาก เลยสนใจอยากสมัครเพื่อลองทำอะไรใหม่ ๆ ดู ซึ่งพอได้เรียนรู้การสรุปหนังสือและทำสไลด์ให้สวยแล้วได้ประโยชน์มากครับ อย่างการวางแผนสไลด์บนกระดาษ ทำให้เราได้คิดวิเคราะห์ก่อนลงมือทำ จึงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”


“ความท้าทายของผมคือการบริหารเวลา เพราะเป็นสายงานปฏิบัติการที่ต้องทำงานกลางคืนและเสาร์อาทิตย์ด้วย แต่ก็พยายามแบ่งเวลาวันละครึ่งชั่วโมงมาอ่านหนังสือ แล้วตกผลึกเนื้อหาออกมาทำเป็นสรุปสั้น ๆ ให้เข้าใจง่าย ซึ่งช่วงแรกยอมรับว่ายากครับ แต่พอเห็นคนอื่นทำได้ก็มีกำลังใจ อีกอย่างของรางวัลที่ทางโครงการตั้งไว้ก็จูงใจให้อยากทำไปจนถึงเล่มที่ 4 ให้ได้ หนังสือที่ทำสรุปแล้วประทับใจคือเรื่อง “เทคนิคทำสไลด์ นำเสนออะไรก็ผ่านใน 3 นาที” ที่ทำเสร็จผมแชร์ให้เพื่อนหลาย ๆ กลุ่ม ทั้งเพื่อนมัธยม เพื่อนมหาวิทยาลัย ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก เพื่อนทักมาขอบคุณว่ามีประโยชน์มาก ๆ ช่วยให้เขาทำสไลด์ได้ดีขึ้น ก็เหมือนเป็นกำลังใจเล็ก ๆ ว่าสิ่งที่เราทำสร้างประโยชน์ให้คนอื่นได้จริง ผมมองว่าการเข้าร่วมโครงการนี้มีแต่ได้กับได้ ทำให้เราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น มีวินัย มีความรับผิดชอบ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน นอกเหนือจากนั้นการสรุปหนังสือยังเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวเราและคนรอบข้างด้วยครับ”



หนา-นางสาวเปรมใจ ซิบเข

วิศวกรโยธา 7 สำนักภูมิสารสนเทศระบบไฟฟ้า

“หนาเป็นคนอ่านหนังสืออยู่แล้ว พอเห็นโครงการนี้ก็อยากพัฒนาตัวเอง เลยตัดสินใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม จำได้ว่าวันแรกหลังจากอบรมทางซูมกับเซนเซแป๊ะ ก็กลับไปซื้อหนังสือมาหลายเล่มมาก ความยากไม่ได้อยู่ที่การอ่าน มันท้าทายตรงที่เราต้องสรุปหนังสือเล่มแรกออกมาให้ได้ แต่ไม่รู้จะสรุปอย่างไร จนผ่านไปเกือบ 18 วัน ได้เห็นผลงานของเพื่อน ๆ ร่วมโครงการที่ทยอยส่งออกมาแล้วรู้สึกว่า เขายังทำได้เลย แถมทำได้ดีด้วย เลยได้แรงบันดาลใจเข็นเล่มแรกออกมาจนสำเร็จ จากนั้นเล่มอื่น ๆ ก็ตามมา”


“สิ่งที่ได้จากโครงการนี้คือการทำงานอย่างเป็นระบบค่ะ ตั้งแต่การอ่านอย่างเป็นระบบ คิดอย่างเป็นระบบ และที่ประทับใจมากคือการได้เป็นผู้ให้ พอเราสรุปหนังสือแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ให้คนอื่น แล้วมีคนมากดไลก์ คอมเมนต์ว่าเข้าใจง่าย ก็รู้สึกอิ่มเอมใจ เหมือนเป็นธรรมทานอย่างหนึ่ง ทำให้เราอยากสรุปไปเรื่อย ๆ ถ้าคอร์สนี้เปิดอีกก็อยากให้เพื่อน ๆ มาสมัครกันเยอะ ๆ นะคะ จะได้รับรู้ถึงความอิ่มเอมใจของการเป็นผู้ให้ค่ะ”



เกม-นายกิตติศักดิ์ จุลศักดิ์

นักประชาสัมพันธ์ 7 ฝ่ายสื่อสารองค์กร

“เกมเป็นอีกคนที่ติดตามเพจสรุปให้อยู่แล้ว พอได้รับข้อมูลว่ามีโครงการนี้ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ก็สนใจ อีกอย่างคืออยากเคลียร์หนังสือในตู้ที่ดองไว้ด้วย แต่ปรากฏว่าพอเรียนเสร็จ ไปหาซื้อหนังสือมาใหม่อีก เพราะอยากจะได้ความรู้ใหม่ ๆ มาสรุป (หัวเราะ) ความท้าทายของกิจกรรมนี้คือการทลายความขี้เกียจของตัวเอง เพราะก็ต้องยอมรับว่าพอเราเห็นหนังสือหนา ๆ 200-300 หน้า จะรู้สึกขี้เกียจ แต่โครงการนี้ทำให้เราลุกขึ้นมาอ่านได้ แล้วยังถอดเนื้อหาสรุปออกมาส่งต่อให้คนอื่นด้วย เรียกว่าช่วยสร้างไฟให้เราได้ดีมาก”


“เรื่องการจัดการคือสิ่งที่ผมได้จากโครงการนี้มากที่สุด เพราะเราต้องจัดการสารที่ต้องการ

จะสื่อ ไม่ใช่แค่อ่านหนังสือ แต่ต้องนำเนื้อหาทั้งเล่มมาทำคอนเทนต์ เพื่อให้คนที่ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อน อ่านสรุปแล้วรู้เรื่อง และสนใจที่จะไปอ่านในเล่มเต็มต่อ ทั้งยังต้องจัดการเวลาเพื่อให้สามารถทำภารกิจตรงนี้ได้ เกมจึงมองว่าโครงการนี้ทำให้ได้ฝึกเรื่องของการจัดการค่อนข้างดีเลยครับ และก็เหมือนที่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี กล่าวไว้ว่า “นายไม่อ่านหนังสือ นายจะรู้อะไร” เกมรู้สึกว่าการอ่านมีแต่ได้กับได้จริง ๆ ทั้งได้กับตัวเอง คือได้รู้ในเรื่องที่อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน และพอเราสรุปออกมาก็ทำให้คนอื่นได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราส่งต่อ ถ้ามีโครงการนี้อีก แนะนำให้คนที่อยากพัฒนาตัวเองรีบสมัครกันเลยครับ อย่าช้า เพราะว่าเต็มเร็วมาก”



ปอ-นางสาว ป.อัจจิมา จันทร์ทอง

นักประมวลผลข้อมูล 8 ฝ่ายพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัล

“เป็นแฟนเพจและแฟนคลับของสรุปให้อยู่แล้ว ประกอบกับอยากดึงศักยภาพตัวเองออกมาก็เลยไม่ลังเลที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการ สารภาพว่าตั้งแต่เรียนจบมา จับหนังสือน้อยมาก และหนังสือที่จับส่วนใหญ่เป็นหนังสือวิชาการ ดังนั้นพอสมัครแล้วสิ่งแรกที่ทำคือ ไปหาเพื่อนที่ชอบอ่านหนังสือเพื่อถามว่ามีหนังสือให้ยืมไหม ขอยืมมาอ่านหน่อยแล้วฉันจะสรุปมาให้เธอดู เพื่อนก็ขนมาให้ยืมเยอะเลย แต่เราเลือกมา 5 เล่มที่เราชอบ”


“การเข็นสรุปเล่มแรกออกมาอาจจะต้องฮึบหน่อย แต่ก็ได้กำลังใจจากเมนทอร์ที่คอยอ่านคอยตรวจคอนเทนต์ของเรา ทำให้มั่นใจว่า สุดท้ายแล้วผู้อ่านจะได้สิ่งที่มีคุณภาพไปอ่านจริง ๆ ซึ่งการมีพี่เลี้ยงคอยดูแลแบบนี้ช่วยให้เรามีวินัยในการอ่านและทำสรุปมากขึ้น เพราะพอเรารู้ว่ามีคนคอยตรวจให้ก็ต้องวางตารางงานว่าอย่างน้อยทำให้ได้ 2 อาทิตย์ต่อ 1 เล่ม จะได้ครบตามกำหนด เลยรู้สึกว่ากว่าจะผ่านมา 4 เล่มได้ เราต้องชนะใจตัวเองพอสมควร เหมือนต้องแข็งแกร่งกว่าจะผ่านมาได้ สำหรับคนที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการในครั้งต่อไป อยากบอกว่าพิจารณาตัวเองก่อน หากพร้อม แนะนำให้สมัครเลย เพราะนี่ไม่ใช่แค่การนั่งอบรม แต่เป็นการลงมือทำ ซึ่งจะทำให้เราชนะใจตัวเอง และมีผลพลอยได้เป็นทักษะการสรุป การนำเสนองาน ก่อนที่สุดท้ายจะได้ส่งต่อพลังนี้ให้กับคนอื่น ถ้าใครพร้อมก็อยากเชิญชวนให้ลองมาลงมือทำดูค่ะ”



ฝุ่น-นายกังวาน เจริญครบุรี

วิศวกรไฟฟ้า 9 ฝ่ายวางแผนระบบไฟฟ้าและโครงข่ายอัจฉริยะ

“ผมเห็นว่าเป็นโครงการที่ได้ลงมือทำ มีภาคปฏิบัติ เลยสนใจสมัคร ซึ่งพอได้ร่วมกิจกรรมแล้วมีหลายสิ่งมากที่ได้เรียนรู้จากโครงการนี้ อันดับแรกคือทำให้เรารู้จักการดึงทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดมาใช้ให้เหมาะสม เพราะในพื้นที่ของสรุปให้ มีกฎกติกาว่าต้องใช้ตัวอักษรเท่าไร อย่างไร ถึงจะออกมาสวยและดี อีกเรื่องหนึ่งคือฟีดแบ็ก คือพอเริ่มอายุมากขึ้น อีโก้ของเราก็โตไปด้วย พอเข้าร่วมโครงการนี้ ผมตั้งใจว่าจะทำตามที่เมนเทอร์แนะนำทั้งหมด แบบไม่มีอีโก้ ซึ่งพอทำตามแล้วสไลด์ของเราก็สวยขึ้นจริง ๆ ทำให้เปลี่ยนความคิดไปเลยว่า คำว่าฟีดแบ็กไม่ได้น่ากลัว และทำให้เราเป็นคนที่พร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา”


“สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดคือบรรยากาศในการทำกิจกรรมครั้งนี้ เพราะบรรดาพี่ ๆ น้อง ๆ ที่มาอยู่รวมกัน ล้วนมีความชอบเหมือนกันคือการอ่านหนังสือ ในโครงการนี้ทุกคนเลือกตัวตนของตัวเองผ่านหนังสือ และพอเริ่มเข้าใจหลักการของสรุปให้ ต่างคนต่างก็เติบโตไปในแบบของตัวเอง ไม่ได้เปรียบเทียบกัน ไม่ใช่การแข่งขัน ซึ่งผมมองว่าบรรยากาศแบบนี้เป็นบรรยากาศที่ดีมาก เลยประทับใจที่สุดครับ สำหรับคนที่ประเมินตัวเองแล้วว่าพร้อมและชอบ อยากท้าทายตัวเอง เตรียมตัวสมัครซีซันสองกันได้เลยครับ ส่วนคนที่ไม่ชอบ ผมอยากให้พาตัวเองมาอยู่ในจุดที่จะทำให้เราขยับไปข้างหน้าได้ ความยากอย่างเดียวของโครงการนี้คือสมัครให้ทัน ฉะนั้นขอแค่กดทัน

ผมเชื่อว่าคุณจะก้าวไปข้างหน้าจากจุดที่เป็นอยู่แน่นอนครับ”


สุดท้ายแล้ว หลังจากปิดโครงการสรุปหนังสือเล็ก ๆ ของคน MEA หรือ MEA Book Summary Expert นายตาอีฟ ตระกูลอินทร์ นักฝึกอบรม 7 ฝ่ายฝึกอบรม ในฐานะหัวหน้าโครงการ เผยว่ารู้สึกภูมิใจในสมาชิกโครงการทั้ง 60 คนมาก เพราะเห็นได้ถึงความตั้งใจจริง ยิ่งได้เห็นผลงานของทุกคนถูกแชร์ออกไปสู่สาธารณะ ยิ่งรู้สึกปลิ้มปีติ


“ในฐานะผู้จัดโครงการนี้ ถือว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จมาก ชื่นชมในความตั้งใจของทุกคนที่แม้จะไม่ว่างเลย ภารกิจหน้าที่ยุ่งมาก แต่ก็ยังตั้งใจอย่างเต็มที่ สิ่งที่ทุกคนทำเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวเองและคนที่ได้อ่านสรุป หากสามารถนำความรู้ตรงนี้ไปต่อยอดในการทำงาน ทั้งเรื่องของงานแผน งานระบบไฟฟ้า ให้เข้าใจได้ง่ายกว่านี้ ผมมองว่าจะมีประโยชน์มากครับ อยากให้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้มากที่สุดครับ” หัวหน้าโครงการกล่าวทิ้งท้าย


สำหรับเพื่อน ๆ ชาว MEA ที่สนใจโครงการดี ๆ แบบนี้ ติดตามกันให้ดี ซีซันสองอาจจะมาเร็ว ๆ นี้ก็เป็นได้ อย่าลืมว่าโอกาสเป็นของคนที่พร้อมกว่าและเร็วกว่าเท่านั้น ถ้าไม่อยากพลาดต้องสมัครให้ทัน

71 views

Kommentare


bottom of page